ข้ามไปที่เนื้อหา
ไทย - ไทย
  • ไม่มีการเสนอแนะเพราะช่องการค้นหาว่าง

ประเภทบัญชีที่ให้บริการ – ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์

สรุปประเภทบัญชีที่ Yuanta Securities ให้บริการ ครอบคลุมบัญชีบุคคลธรรมดา นิติบุคคล รวมถึงประเภทการซื้อขายทั้ง Cash, Credit Balance และบัญชีอนุพันธ์

1. ภาพรวมประเภทบัญชี Yuanta Securities

Yuanta Securities ให้บริการบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์หลายประเภท เพื่อรองรับนักลงทุนทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล

  • บัญชีบุคคลธรรมดา (Individual Account)

  • บัญชีนิติบุคคล (Corporate / Organization Account) 

แต่ละประเภทบัญชีมีคุณสมบัติ เอกสารประกอบ สิทธิประโยชน์ และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ลูกค้าควรเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


2. หมวดหมู่บัญชีหลัก

  1. บัญชีบุคคลธรรมดา (Individual Account)

    • บัญชีเดี่ยว (Single Account)

    • บัญชีร่วม (Joint Account – OR / AND)

    • บัญชีผู้เยาว์ (Minor Account)

  2. บัญชีนิติบุคคล (Corporate / Organization Account)

    • บัญชีบริษัทจำกัด / บริษัทมหาชนจำกัด

    • บัญชีห้างหุ้นส่วน

    • บัญชีมูลนิธิ / สมาคม / องค์กรไม่แสวงหากำไร

  3. บัญชีพิเศษ (Special Account)

    • บัญชี Omnibus

    • บัญชี Nominee

  4. ประเภทการซื้อขาย

    • บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (Cash Account)

    • บัญชีซื้อขายเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance / Margin)

    • บัญชีซื้อขายอนุพันธ์ (Derivatives Account – TFEX)


3. บัญชีบุคคลธรรมดา (Individual Account)

3.1 บัญชีเดี่ยว (Single Account)

ลักษณะบัญชี

  • เจ้าของบัญชี 1 คน

  • มีสิทธิ์เต็มในการซื้อขาย ฝากถอน และจัดการบัญชี

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่บริหารพอร์ตด้วยตนเอง

คุณสมบัติพื้นฐาน

  • สัญชาติไทย หรือชาวต่างชาติที่มีเอกสารถูกต้อง

  • อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

  • มีที่อยู่ติดต่อได้ ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไร้ความสามารถ

เอกสารหลัก (บุคคลสัญชาติไทย)

  • สำเนาบัตรประชาชน

  • สำเนาทะเบียนบ้าน (ตามนโยบายบริษัท ณ ขณะนั้น)

  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (ชื่อเดียวกับผู้เปิดบัญชี)

ช่องทางการเปิดบัญชี

  • เปิดบัญชีออนไลน์ (E-Open) ผ่านเว็บไซต์ www.yuanta.co.th

  • เปิดบัญชีที่สาขา Yuanta (สำหรับบางกรณี)


3.2 บัญชีร่วม (Joint Account – OR / AND)

ประเภทบัญชีร่วม

  • Joint-OR: ผู้ถือบัญชีคนใดคนหนึ่งทำรายการได้เอง เหมาะสำหรับคู่สมรส หรือคนใกล้ชิด

  • Joint-AND: ต้องได้รับความยินยอม/ลงนามจากผู้ถือบัญชีทุกคน เหมาะสำหรับการลงทุนที่ต้องการความรอบคอบสูง

คุณสมบัติหลัก

  • ผู้ถือบัญชีทุกคนอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

  • มีเอกสารแสดงตนครบถ้วนทุกคน

  • จำนวนผู้ถือบัญชีขั้นต่ำ 2 คน (จำนวนสูงสุดขึ้นกับนโยบายบริษัท)

เอกสารสำคัญ

  • เอกสารประจำตัวของผู้ถือบัญชีทุกคน (สำเนาบัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน)

  • สำเนาหน้าสมุดบัญชี (บัญชีร่วม หรือบัญชีของผู้ถือบัญชีตามเงื่อนไข)

  • เอกสารความสัมพันธ์ (ถ้ามี เช่น ทะเบียนสมรส)

หมายเหตุ

  • โดยทั่วไป การเปิดบัญชีร่วมต้องดำเนินการที่สาขา และผู้ถือบัญชีทุกคนควรมาด้วยกัน


3.3 บัญชีผู้เยาว์ (Minor Account)

ลักษณะบัญชี

  • เปิดในนามผู้เยาว์ (อายุต่ำกว่า 20 ปี)

  • มีผู้ปกครองเป็นผู้ดูแลและทำรายการแทน

  • เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว วางแผนการศึกษา หรือสอนวินัยทางการเงินให้บุตรหลาน

ผู้มีสิทธิ์เกี่ยวข้อง

  • ผู้เยาว์: เจ้าของบัญชี

  • ผู้ปกครอง: บิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย เป็นผู้ทำรายการทั้งหมด

ข้อจำกัดสำคัญ

  • ผู้เยาว์ไม่สามารถทำรายการซื้อขายเอง

  • โดยทั่วไปไม่อนุญาตให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อนุพันธ์, Short Sale (ตามนโยบาย ณ ขณะนั้น)

การเปลี่ยนสถานะเมื่อครบ 20 ปี

  • ต้องแจ้งเปลี่ยนเป็นบัญชีเดี่ยวในนามเจ้าของบัญชี

  • ใช้เอกสารบัตรประชาชน และบัญชีธนาคารในชื่อเจ้าของบัญชีโดยตรง


4. บัญชีนิติบุคคล (Corporate / Organization Account)

4.1 บัญชีบริษัทจำกัด / บริษัทมหาชนจำกัด

ลักษณะบัญชี

  • เปิดในนามนิติบุคคล (บริษัทจำกัด / บริษัทมหาชนจำกัด)

  • ผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองบริษัทเป็นผู้ทำรายการ

  • เหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการบริหารเงินลงทุนหรือเงินสำรอง

เอกสารหลัก

  • หนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน)

  • สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ และ/หรือข้อบังคับ (ตามที่บริษัทหลักทรัพย์กำหนด)

  • บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น / กรรมการ

  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจ

  • หน้าสมุดบัญชีธนาคารในนามบริษัท


4.2 บัญชีห้างหุ้นส่วน (Partnership Account)

ลักษณะบัญชี

  • สำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน / ห้างหุ้นส่วนจำกัด

  • เปิดในนามห้างหุ้นส่วน โดยผู้จัดการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ลงนาม

เอกสารสำคัญ

  • หนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนจากกระทรวงพาณิชย์

  • เอกสารตั้งห้างหุ้นส่วน / ข้อกำหนดภายใน

  • รายชื่อหุ้นส่วน และผู้จัดการ / หุ้นส่วนผู้จัดการ

  • เอกสารประจำตัวของผู้จัดการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการ


4.3 บัญชีมูลนิธิ / สมาคม / องค์กรไม่แสวงหากำไร

ลักษณะบัญชี

  • สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น มูลนิธิ สมาคม วัด โรงเรียน

  • ใช้ลงทุนเพื่อบริหารเงินทุนหรือเงินบริจาค

เอกสารหลัก

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนมูลนิธิ/สมาคมจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

  • ข้อบังคับหรือระเบียบองค์กร

  • รายชื่อคณะกรรมการและผู้มีอำนาจลงนาม

  • หน้าสมุดบัญชีธนาคารในนามองค์กร


5. บัญชีพิเศษ (Special Account)

5.1 บัญชี Omnibus Account

ลักษณะ

  • บัญชีรวมที่เปิดโดยผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุน เช่น บริษัทจัดการกองทุน หรือ Custodian

  • ใช้รวบรวมการซื้อขายของลูกค้าหลายรายไว้ในบัญชีเดียว

  • ต้องมีระบบ Back Office แยกบัญชีย่อยลูกค้าได้ชัดเจน


5.2 บัญชี Nominee Account

ลักษณะ

  • บัญชีในนามตัวแทนหรือผู้รับมอบอำนาจ (Nominee)

  • ถือหลักทรัพย์แทนเจ้าของที่แท้จริง (Beneficial Owner)

  • ต้องเปิดเผยข้อมูลเจ้าของผลประโยชน์ตามกฎหมายและเกณฑ์กำกับ


6. ประเภทการซื้อขาย (Trading Types)

6.1 บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (Cash Account)

ลักษณะ

  • ซื้อขายด้วยเงินสดในบัญชี

  • ชำระราคา T+2 ตามเกณฑ์ตลาด

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไป

หลักทรัพย์ที่รองรับ (ขึ้นกับนโยบายบริษัท ณ ขณะนั้น)

  • หุ้นสามัญ, หุ้นบุริมสิทธิ

  • ETF, พันธบัตร/หุ้นกู้, กองทุนรวม

  • ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)

  • หุ้นต่างประเทศ (หากเปิดบัญชี Global เพิ่มเติม)


6.2 บัญชีซื้อขายเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance / Margin)

ลักษณะ

  • ใช้วงเงินสินเชื่อจากบริษัทหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ

  • อาจใช้หลักทรัพย์ในพอร์ตเป็นหลักประกัน

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และยอมรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น

แนวคิดเบื้องต้น

  • ใช้วงเงินมากกว่าเงินสดของตนเอง

  • มีดอกเบี้ยเงินกู้และเงื่อนไขหลักประกัน (Margin)

  • อาจมีเมนู Cash Balance / Margin Loan / Short Sale ตามผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเปิดให้บริการ


6.3 บัญชีซื้อขายอนุพันธ์ (Derivatives Account – TFEX)

ลักษณะ

  • ใช้ซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ เช่น SET50 Futures, Single Stock Futures, Gold Futures, USD Futures และ Options (ตามผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้บริการ)

  • มีการวางหลักประกัน (Initial Margin / Maintenance Margin)

  • ใช้ Leverage สูงกว่าหุ้นทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจความเสี่ยงและมีประสบการณ์

เงื่อนไขหลัก

  • มีบัญชีหลักทรัพย์อยู่ก่อน

  • ผ่านการทดสอบความรู้ด้านอนุพันธ์ (Derivatives Knowledge Test)

  • ผ่านการประเมินระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม


7. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: บุคคลธรรมดาเปิดได้กี่บัญชี?
สามารถเปิดได้ 1 บัญชีเดี่ยวต่อ 1 บริษัทหลักทรัพย์ และสามารถมีบัญชีร่วม / บัญชีนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ ตามเงื่อนไขของบริษัทและกฎหมาย

Q2: มีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชีหรือไม่?
โดยทั่วไป การเปิดบัญชีไม่มีค่าธรรมเนียม (ขึ้นกับโปรโมชั่นและนโยบายในช่วงเวลา)

Q3: ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่ในการเปิดบัญชี?
โดยปกติไม่มีเงินฝากขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชี แต่ต้องมีเงินเพียงพอสำหรับการซื้อขายในแต่ละครั้ง

Q4: ชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีได้หรือไม่?
สามารถเปิดได้ โดยต้องมี Passport ที่ยังไม่หมดอายุ เอกสารวีซ่า/ใบอนุญาตทำงาน และบัญชีธนาคารในประเทศไทยตามเงื่อนไขบริษัท

Q5: หากต้องการใช้วงเงินเครดิต (Credit Balance) ต้องทำอย่างไร?
ต้องยื่นขอเปิดบัญชีหรือขอวงเงินเพิ่มเติม พร้อมแนบหลักฐานรายได้/หลักทรัพย์ และผ่านการพิจารณาจากบริษัทหลักทรัพย์ก่อน

Q6: ถ้าอยากเทรดอนุพันธ์ (TFEX) ต้องเปิดบัญชีใหม่หรือไม่?
ต้องเปิดบัญชีอนุพันธ์เพิ่มเติม (Derivatives Account) แยกจากบัญชีหุ้น และต้องผ่านการทดสอบความรู้ รวมถึงการประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มเทรด


ช่องทางติดต่อและขอความช่วยเหลือ

  • ศูนย์บริการลูกค้า Online Service

    • โทร: 02 009 8000 (ในวันและเวลาทำการ)

  • อีเมล: online@yuanta.co.th

  • เว็บไซต์: www.yuanta.co.th

  • LINE OA: @yuantathai